Video

25550227

[TRANS] [INTERVIEW] 120217 Vogue Girl Korea - March Edition



V.G: นอกจาก B1A4 คนยังเรียกพวกคุณว่า "ไอดอลเลือด" ใครเป็นคนตั้งชื่อวงคะ?
จินยอง: พวกเราตัดสินใจเรื่องชื่อวงด้วยกันครับ ตอนแรกกับความหมายว่า "พวกเราคือเอช" (T/N: เอช คือ แต้ม 1 ของไพ่ค่ะ) พวกเราเลยตัดสินใจตั้งชื่อวงว่า "Ace" แล้วก็ทำโลโก้ แต่ในตอนท้ายพวกเราตัดสินใจใช้ชื่อในตอนนี้ของพวกเรา ด้วยเมมเบอร์เลือดกรุ๊ป B 1 คนและกรุ๊ป A 4 คน พวกเราคือ B1A4 บาโรคือเมมเบอร์คนเดียวที่มีเลือดกรุ๊ป B ครับ

V.G: มีวงไอดอลชายที่อายุไล่เลี่ยกับพวกคุณเยอะมาก แต่จุดสำคัญของ B1A4 คืออะไรคะ?
ชานดึล: ผมคิดว่าคือความเป็นมิตรของเราครับ ไอดอลที่แฟนๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย?
บาโร: เราทั้ง 5 มาจากต่างจังหวัดครับ และน่าแปลกว่า พวกเรามาจากบ้านเกิดคนละเมืองเลย
ชานดึล: ลองคิดดูนะครับ ถ้าดูด้วยกันตามลำพังเราจะใช้สำเนียงท้องถิ่น แต่ของผมนี่เครียดสุดเลย ผมมีสำเนียงปูซานแต่ด้วยความสัจจริง เวลาผมใช้สำเนียงนั้น ผมไม่เชื่อเลยว่าผมใช้มันอยู่ จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังพูดด้วยสำเนียงนั้น (บาโร: เอ๋...เป็นไปได้ไง!) การพูดด้วยสำเนียงโซลมาตรฐานมันดูเหมือนจะยากจริงๆ
ชินวู: พวกเราค่อนข้างจะไปออกอากาศและรายการเรียลลิตี้ ดังนั้น ผมเลยคิดว่าแฟนๆ สามารถทำเหมือนว่าเราเป็นเพื่อนได้ครับ

V.G: ด้วยคาแรคเตอร์หลักของ B1A4 แฟนๆ มีการสร้างเกมขึ้นมาและมีการเขียนแฟนฟิคเยอะเลย
บาโร: นั่นคือเหตุผลว่าทำไมสิ่งเหล่านั้นปรากฏบนเสิร์ชของ Naver? ผมต้องไปดูซะแล้วล่ะ!
จินยอง: นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำไมเราถึงมีชื่อเล่นกันเยอะ เพราะว่าแฟนๆ สามารถสร้างมันให้เราได้สบายๆ ผมได้ยินว่าเราเหมือนสัตว์บ่อยๆ ครับ ผมเป็นหมาป่าอาร์คติก ชินวูเป็นหมี ชานดึลเป็นเป็ด บาโรเป็นกระรอก และกงชานเหมือนกับลูกหมา? ถูกมั้ยครับ?

V.G: ตอนนี้พวกคุณคุ้นกับเวทีหรือยัง? หรือว่ายังตื่นเต้นอยู่?
บาโร: พวกเราทุกคนสนุกกับเวทีครับ และผมคิดว่ามันเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งของเรา พวกเรามั่นใจที่จะเล่นไปรอบๆ เวทีและมันก็ทำได้ง่าย พวกเราคิดว่าเวทีคือสนามเด็กเล่นครับ
จินยอง: ข้อความที่เราตะโกนก่อนที่จะขึ้นเวทีคือ "มาเล่นกันเถอะ!" นั่นทำให้คนที่กำลังดูสามารถสนุกไปกับการแสดงครับ

V.G: วิธีการเริ่มต้นเป็นนักร้องของคุณต่างกันใช่มั้ยคะ?
จินยอง: ตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ผมฝันอยากเป็นผู้ให้ความบันเทิง ผมไปกลับระหว่างบ้านเกิดที่ชุงจูกับโซลขณะเรียนการแสดง ผมมาเรียนวิธีการร้องเพลงให้ดี และรับบทเล็กๆ น้อยๆในละคร ตอนที่บริษัทติดต่อผมมาออดิชั่นคือตอนที่ผมกำลังเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยหลังจากเห็นผมในอินเตอร์เนตคาเฟ่และผมก็ตอบตกลง และมีบทอีกครั้งในฉากมีดกับกงกิลจากเรื่อง 'The King and The Clown'
บาโร: ฮยองดูจะเป็นตัวเองตอนที่ร้องเพลง เขาจดจ่อตัวเองอยู่กับเพลง และมีดวงตาดูชื้นหลังจากนั้น
ชานดึล: ผมตกใจหลังจากเห็นดวงตานั้น ด้านอันเซอไพรส์ของพี่คือตอนที่เขาแต่งทำนองและเขียนเพลง เขาไม่เคยเรียนมัน แต่เขารู้รู้วิธีการแต่งเพลงอย่างดี
ชินวู: ผมมองทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น จินยองเริ่มให้ความสนใจการแต่งเพลงและไปซื้ออุปกรณ์สำหรับมัน แล้วก็เริ่มเรียนรู้ ตอนนี้มันรู้สึกพิเศษเวลาที่ผมเห็นเพลงของเขาถูกบรรจุอยู่ในอัลบั้มของเราครับ
กงชาน: พี่จินยองเป็นเหมือนพ่อครับ เขาชักนำเราเหมือนเราเป็นเด็กๆ (V.G: อายุต่างกันเท่าไหร่คะ?) 2 ปีครับ (หัวเราะ)

V.G: แล้วบาโรเดบิวต์ยังไงคะ?
บาโร: ผมเป็นเด็กที่ไม่รู้จะทำอะไรเกี่ยวกับความฝัน เพราะว่าผมอยู่ต่างจังหวัด แต่ผมพบโอกาสเมื่อบริษัทเห็นรูปของผมถูกอัปโหลดลงบนมินิโฮมพีและติดต่อผม แน่นอนว่าผมตกลงในทันทีครับ เขาให้ผมร้องเพลง (V.G: เพลงอะไรคะ?) ผมร้องเพลงของ "If Leave" โจซูมิครับ (หัวเราะ) ผมชอบแรพและไม่มีความมั่นใจในการร้องเพลง แต่เพื่อนของผมบอกว่าถ้าผมร้องเพลงไม่ได้ ผมควรเลือกเพลงที่ใช้การตะเบ็งเยอะๆ ดังนั้นผมเลยทำให้ใจเย็นลงและเลือกเพลงที่มีการตะเบ็งเยอะๆ
ชานดึล: แต่สำหรับผู้ชายแล้ว ผมทึ่งในเสียงสูงของเขาจริงๆ ครับ เขาช่วยดึงเพลง และเขามีหลายด้านที่คล้ายกับผู้หญิง เหมือนเช่นผู้หญิงจะมีการจัดการส่วนตัว เขาจะลบเครื่องสำอางค์ทันทีเมื่อเขาถึงบ้านแล้วก็มาร์กส์หน้า (หัวเรา) เขามีความเรียบร้อยดีด้วยครับ 
บาโร: นั่นเป็นเพราะผมมีนิสัยชอบจัดระเบียบครับ เพราะว่าแม่กับพ่อของผมจะกลับมาดึกหลังจากทำงาน ผมเลยจะต้องทำงานบ้านถ้าบ้านไม่เรียบร้อย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงทำความสะอาดบ้านก่อนพวกเขากลับมา
จินยอง: บาโรเป็นคนหนึ่งที่มีปฏิกิริยาสะท้อนกับตัวเองอย่างมากครับ และจะหาจุดอ่อนของตัวเองแล้วก็แก้ไขให้มันดี เขายังทำงานหนักเพื่อสร้างการแรพของตัวเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเห็นด้านนี้ของเขา ผมรู้ได้เลยว่าเขาต้องทำงานหนักแค่ไหน ผมติดตามอยู่ครับ

V.G: แล้วชานดึลละคะ มีเรื่องราวยังไง "พรีเดบิตวต์ชานดึล" มักจะถูกเสิร์ช?
ชานดึล: ผมมีสายตาที่แย่มากดังนั้นเลยโตมากับการใส่แว่น แต่ทุกคนพูดว่ามันดูแตกต่าามากในตอนนี้กับตอนที่ผมสวมแว่น เพราะว่ามชอบร้องเพลงมากตั้งแต่เด็ก ผมเข้าประกวดร้องเพลงทั่วเกาหลี ผมกวาดทุกรางวัลเลยครับ...ล้อเล่นอ่ะครับ แต่บางครั้งผมก็ได้ที่ 1 นะ (หัวเราะ) วิดีโอเหล่านั้นจะถูกอัปโหลดขึ้นอินเตอร์เนตบ่อยๆ แล้วทางบริษัทก็ติดต่อให้ผมมาร่วมวง
บาโร: ชานดึลจะใส่อารมณ์ของเขาลงไปบนเวที และมันดูเศร้าจริงๆ โดยปกติคนส่วนใหญ่จะซีเรียสเวลาร้องเพลง และทักทายผู้คนขณะหัวเราะหลังจากผ่อนคลายอารมณ์ แต่ชานดึลจะไม่หลุดออกจากอารมณ์จนกว่าแทร็ค MR จะเล่นจบครับ
จินยอง: แต่สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันมันเหมือนกับซิทคอมเลยครับ ตัวอย่างเช่น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เขาแค่เปิดประตูเพื่อเข้าห้องน้ำ แต่จบด้วยการพังลูกบิดประตู เรื่องราวที่น่าขบขัน... พังด้ามจับเหล็กเหมือนกับเขาอยู่ในตลกระเภทโครมคราม... ปฏิกิริยาตอบสนองใหญ่หลวงมาก....
กงชาน: อธิบายพี่ชานดึลใน 1 คำ... มอเตอร์? (V.G: เพราะว่าเขามีมอเตอร์?) คุณรู้ได้ไงครับ? (หัวเราะ) ไม่ใช่ครับ ผมจะพูดว่าเขามีความไม่จำกัด (อินฟินิตี้) ในตัวเองครับ ถ้าเขาติดอะไรในหัวข้อมระหว่างสนทนา เขาจะพูดซ้ำไปซ้ำไป ผมต้องฟังเขาพูดถึงสิ่งเดียวกันถึง 2 ชั่วโมงแน่ะครับ

V.G: เมื่อเทียบกับเมมเบอร์คนอื่น ชินวูดูเหมือนจะใจเย็นและเงียบที่สุด
จินยอง: ระหว่างเรา เราเรียก ชินวูผู้คงแก่เรียน เขาอ่อนโยนกับทุกสิ่งที่เขาทำ และเขามักจะพูดอย่างใจเย็นครับ
ชินวู: เพราะว่าผมเกิดที่ชูงชองโด ผมเลยค่อนข้างช้า (ในการเคลื่อนไหว) แต่ในชีวิตจริงมค่อนข้างจะไม่ค่อยเอาจริงเอาจัง ผมคิดว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของคาแรคเตอร์ของผมครับ เพราะว่าผมมักจะปกปิดหน้าตาของผมมาก ผมคิดว่ามุมนั้นจะไม่ค่อยปรากฏออกมาบ่อยนัก แต่เมื่อเราอยู่ตามลำพังที่หอ ผมจะเปิ่นมาก
กงชาน: ถ้าพี่จินยองเหมือนพ่อ พี่ชินวูก็เหมือนแม่ล่ะครับ (หัวเราะ) ตอนที่เรามารวมตัวกันครั้งแรกเป็นวง ผมไม่รู้จักอะไรเลย พี่คนอื่นๆ จะดูแลผมและอธิบายสิ่งต่างๆ ให้ผมรู้ แต่มีแค่พี่ชินวูคนเดียวที่ไม่ทำแบบนั้น เขามักจะดุผมในหลายๆ อย่าง แต่ผมมาเข้าใจในตอนหลังว่าขาทำแบบนั้นเพื่อไม่ให้มกลายเป็นคนขี้เกียจท่ามกลางการปกป้องของพี่คนอื่นๆ ที่สอนผมเหมือนผมเป็นเด็กครับ

V.G: มักเน่กงชานเดบิวต์ยังไงคะ?
กงชาน: ตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมอยากเป็นนักร้องแต่เพราะว่าผมอยู่ต่างจังหวัด เลยไม่มีโอกาส แต่ผมได้รับการติดต่อจากบริษัทหลังจากที่พวกเขาเห็นที่เพื่อนผมอัปโหลดในเว็บไซต์สาธารณะครับ
ชินวู: ตอนแรก ชานนี่เหมือนลูกหมาแต่ตอนนี้.. เป็นหมา? (หัวเราะ) เขาดูเหมือนเด็ก แต่การกระทำไม่ใช่ครับ แม้ว่าเขาจะอายุน้อยที่สุดในวง แต่ที่บ้านเขาอายุมากที่สุดและมีการเติบโตภายในตัวเขา ดังนั้นเขาจึงดูแลพี่ๆ อย่างดี ในอาณาเขตนั้นเขารู้สึกเหมือนเป็นแม่หมาครับ จินยองมีแนวโน้มที่จะเสียบางอย่าง แต่เขาจะไม่พูดอะไรแล้วก็ส่งมันให้เขา นี่คืออาณาเขตที่เราตั้งชื่อว่า "ความมหัศจรรย์ของกงชาน"

V.G: ฉันคิดว่าพวกคุณทั้ง 5 ช่วยกันกำจัดจุดอ่อนส่วนตัว พวกคุณดูสนิทกันมาก
ชินวู: พวกเราจะมี "เวลาแห่งการพูดคุย" ในวันเสาร์ครับ แม้ว่าพวกเราจะไม่ค่อยได้ทำบ่อยยังเพราะว่าพวกเรายุ่ง แต่เพราะเวลานั้น พวกเราเลยสนิทกันมากขึ้น พวกเราจะเคลียร์ความไม่เข้าใจกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่บาโรมีปัญหา เขามักจะอธิบายออกมาตรงๆ แทนที่จะคิดนานๆ และยากเย็นไปกับมัน เขาจะแสดงมันออกมาและผ่อนคลายจิตใจ เขายังรวดเร็วในการตัดสินใจด้วยครับ พูดอีกอย่างก็คือ จินยองกับผมจะใช้เวลาคิดนานและอย่างยากเย็น พวกเราคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันที่พวกเราจะต้องตัดสินใจ... ในช่วงเวลานั้น ชานนี่จะฟังเงียบๆ และทันใดนั้นจะโพล่งอะไรออกมา มีหลายครั้งที่คำตอบของเขาเข้าท่า และพวกเราจะตัดสินใจขณะที่ทุกคนพูด "โอ้ โอ้!" สำหรับชานดึล... เขากระตือรือร้นครับ (หัวเราะ)

V.G: ปีที่แล้วเป็นปีแรกที่พวกคุณเดบิวต์ และเริ่มโปรโมตกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ในปีนี้ เป้าหมายของคุณคืออะไรคะ?
ชินวู: เราตั้งเป้าหมายไว้ทุกปีครับ และปีที่แล้วพวกเราอยากได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ปีนี้เป้าหมายคือได้รับที่ 1 ในรายการเพลงครับ ถ้าหากได้รางวัลบอนซังในสิ้นปี ผมคิดว่าพวกเราจะขอบคุณมากๆๆๆๆๆเลยครับ ได้โปรดติดตามอัลบั้มของเราที่จะปล่อยในเดือนมีนาคมด้วยนะครับ


---------------------------------------------------------------------------
PLEASE TAKE OUT WITH FULL CREDIT
Source: 빵집누나 @ Daum Cafe, CAPTAIN! FLIGHTB1A4.com
English Translation: skipfire @ FLIGHTB1A4.com
Thai Translation: maay_z @ B1RUNWAYs

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More